กระทู้นี้ดีต่อการลงความเห็นน่ะครับแต่ร้อยคนก็จะร้อยความเห็น ไม่ตรงกันสำหรับผมขอแยกเป็นข้อ ๆ น่ะครับ
ที่ทเด็กสมัยนี้เรียนอ่อนลงก็เพราะว่า
1.สิ่งยั่วยุเยอะมาก เช่นเกมส์ออนไลน์ โรงหนัง ห้าง มอไซเพื่ออวดสาว เป็นตันสิ่งพวกนี้ดึงดูดน้อง ๆ ให้เล่นให้เที่ยว
จนบางครั้งก็ลืมหน้าที่ทของตัวเองไปเลย แต่ก็ว่าไม่ได้ เพราะในกทม.ห้างเยอะสิ่งยั่วยุเยอะกว่าที่ตรังอีกแต่ทำไมน้อง ๆ
ในกทม ถึงเรียนเก่งกว่าเด็กต่างจังหวัด (เทียบจากส่วนมาก)
2.พ่อแม่ผู้ปกครองสมัยนี้ไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูก ๆ โดยเห็นแก่การทำมาหากินเพื่อเลี้ยงครอบครัวซะส่วนใหญ่ แต่ก็ว่า
ไม่ได้อีกเพราะถ้าไม่ทำงานจะเอาอะไรมากิน แล้วถ้ามัวแต่ทำงานจะเอาเวลาไหนไปสอนลูก เวลาช่วงเย็นที่ลูกกลับจาก
โรงเรียนจะได้มานั่งคุยกันซะกี่นาทีเชียว
3.ตัวเด็กเอง สันดานของเด็กถ้ารักดี พ่อแม่สอนนิด ๆ หน่อย ๆ รับฟังปฎิบัติตามตั้งใจเรียนหนังสือ ไม่นอกกรอบเด็กก็จะ
เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ
4.ตัวผู้ใหญ่เอง มักจะทำตัวผิด ๆ ให้ลูกเห็นอยู่บ่อย ๆเช่นชอบสูบบุหรี่ ทานเหล้าใบน้าน ทะเลาะเสียงดัง แว๊นมอไซ
บ้าวัตถุ เมื่อลูก ๆ เด็ก ๆเห็นก็อยากทำตามบ้าง สุดท้ายก็ไม่รักเรียนอีกตามเคย
5.โรงเรียน+คุณครู ต้องยอมรับเลยว่า ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ - 22 ปี หรือตั้งแต่อนุบาล-รับปริญญา เวลาส่วนใหญ่จะอยู่ที่สถาบัน
การศึกษา ถ้าคุณครูไม่อบรมนักเรียน หรืออบรมแบบผ่านไปที ช่างมัน หรือโรงเรียนมีการสอนที่ไม่รัดกุมไม่มีคุณภาพ
แบบนี้เด็กจบมาก็จะไม่มีคุณภาพอีก
ขออิงถึงความเห็นที่ 10 นิดหนึ่งน่ะครับ ในฐานะที่ผมเป็นคนที่เพิ่งเรียนจบและอยู่ในวัยเริ่มทำงาน
ผมว่า เรื่องที่ทอาจรย์มหาวิทยาลัย มากล่าวเช่นนั้น ต้องโทษทางสถาบันและทางอาจารย์อย่างเดียวเลยครับ
เด็กไม่ผิดหรอกครับ เพราะอย่าลืมว่านั่นเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาล เด็กที่เข้าได้คือเด็กที่สอบเข้าไป
เด็กสอบเข้าไปได้แล้ว ก็แสดงว่าเด็กคนนั้นมีประสิทธิภาพสามารถเรียนในคณะนั้น ๆ ได้ เพราะสอบเข้าน่ะครับ
ไม่ได้จับฉลากเข้า ทั้งนี้ การที่เด็ก Drop หรือติด F เยอะ ๆนั้นก็ไม่ได้แปลว่าเด็ก โง่ อีกมุมหนึ่งคือ อาจารย์สอนไม่เข้า
ใจสอนไม่รู้เรื่อง จะบอกว่าสอนแล้วเด็กไม่ฟังก็ไม่ได้ เพราะตัวอาจารย์เองจะต้องมีเทคนิคการสอน ทำอย่างไรให้นักเรียน
สนใจ เนื้อหาด้วย เรื่องแบบนี้มีทุกมหาวิทยาลัย
อีกอย่างเรื่องเรียนติว อันนี้ผมขอยกมือสูง ๆเห็นด้วยอย่างยิ่งว่านักเรียน ม.ปลายทุกคนควรติว
กับสถาบันดังๆ ชั้นนำ เสียเป็นหลักหมื่นก็เสียไปเถอะ เพราะการเรียนต่อในคณะที่ต้องการนั่นหมายถึง
มันจะเป็นวิชาชีพติดตัวไปจนตาย บางคนอยากเป็นพยาบาล ก็ต้องติว+อ่านหนังสือเยอะ ๆ เพราะถ้าสอบได้
ก็สบายไป แต่ถ้าไม่ติดละ ก็ต้องไปเรียนอย่างอื่นซึ่งอาจจะต้องจำใจเรียนเพราะคะแนนไม่ถึงหรือเข้าม.เอกชนซึ่ง
มาราคาแพง การติวเตอร์สมัยนี้ว่าไม่ได้น่ะครับ เพราะอาจารย์เค้าจะสรุปเนื้อหามาให้ มีการวิเคราะห์ถึงแนวข้อสอบ
การอธิบายให้เข้าใจแบบรวบรัด สอบเข้ามหาลัย หนังสือของม.ปลายรวมกันแล้วเป็น 40-50 เล่ม ใครจะอ่านหมด
บางทีผู้ใหญ่บางคนก็ชอบมาพูดว่า เด็กข้างบ้านไม่เห็นเรียนติวยังสอบติด วิศวะ อย่างนู้นอย่างนี้ อยากจะบอกว่า
นั่นมันก็แค่ ร้อยละ1 แล้วอีก 99 เรียนติวทั้งนั้น เอาง่าย ๆสมัยนี้ถ้าลูกบ้านไหนไม่ฉลาดจริง ก็ต้องมีเงินเยอะ ๆ
ไปเรียนเพิ่ม แล้วอนาคตจะสดใส ได้ดั่งหวังแน่นอน
ทั้งหมดนี้แหละ คือสิ่งที่เป็นไปแล้วในปัจจุบัน ^___^